อาการปวดศีรษะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ปวดศีรษะ

 

 

        อาการปวดศีรษะอาจจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็ได้ หรือจะเป็นแค่การเตือนของสาเหตุบางอย่าง เช่น อดหลับอดนอน เครียด พักผ่อนน้อย  รวมไปถึงเป็นโรคที่ร้ายแรงก็จะปวดศีรษะได้

 

อาการปวดศีรษะที่พบบ่อยมีอยู่ 3 ประเภท คือ

 

        1. การปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด จากการอดหลับอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ลักษณะจะปวดตึงๆ ที่บริเวณกล้ามเนื้อ อาจจะปวดที่บริเวณขมับและร้าวไปที่ท้ายทอย จะไม่มีอาการปวดตื้อๆ อาจจะมีอาเจียนเล็กน้อยได้

 

การปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด ไมเกรน

 

        2. ไมเกรน คือ อาการปวดจากการขยายตัวของหลอดเลือด บางคนจะพบมากในช่วงก่อนมีประจำเดือนหรือรอบเดือน หรือจะสัมพันธ์กับความเครียดก็ได้ ลักษณะจะปวดตุ๊บๆ เนื่องจากการเต้นของหลอดเลือด อาจจะปวดที่บริเวณขมับทั้งสองข้าง หรือข้างเดียวก็ได้ อาจมีอาการตาพล่ามัว หรือเห็นเป็นเส้นๆ ในช่วงไม่มีอาการก็จะหายเป็นปลิดทิ้ง มักจะเกิดในช่วงอายุ 15-30 ปี การทานยาไมเกรน(คาเฟกอท) ไปเรื่อยๆ อาจมีผลทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบตัน อาหารบางประเภทก็กระตุ้นให้เกิดไมเกรน เช่น ช็อคโกแลต เบคอน เนย รวมทั้งแสงไฟวูบวาบหรือจ้องหน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์นานๆ และแสงแดดร้อนๆ ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดไมเกรน

 

การรักษา        

 

        เริ่มจากการทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด ผ่อนคลาย อยู่ในที่สงบ ไม่มีเสียงจอแจ หลังจากนั้นลองดื่มน้ำเย็นๆ  1 แก้ว อาจจะจี๊ดขึ้นไปบริเวณสมอง แล้วอาการจะดีขึ้น ถ้าไม่ดีขึ้นอาจจะรับประทานยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อก่อน หรือทานยาคาเฟกอทตามคำแนะนำของแพทย์

 

ทำจิตใจให้สงบ ไม่เครียด ผ่อนคลาย อยู่ในที่สงบ

 

        3. การปวดจากโรคร้าย อาทิ ฝีในสมองหรือเส้นเลือดในสมองแตก จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งหรือพยาธิสภาพ อาการปวดจะปวดมากขึ้นเรื่อยๆ  พักผ่อนหรือรับประทานยาอย่างไรก็ไม่หาย อาจจะมีอาการชักร่วมด้วย มีอาเจียนหรือภาพซ้อน

 

อาการแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์

 

        ถ้าปวดธรรมดาทั่วไปจากการตึงของกล้ามเนื้อ อาจจะลองพักผ่อนให้เพียงพอก่อน หลีกเลี่ยงความเครียด ทำจิตใจให้สบายก่อน ถ้าดีขึ้นอาจจะไม่ต้องทานยา ถ้าไม่หายแล้วจึงค่อยทานยา โดยเริ่มจากกลุ่มยาพาราเซตตามอล หรือยาแก้ปวดหรือ ยาคลายกล้ามเนื้อทั่วไป  แต่ถ้าไม่ดีขึ้นจึงค่อยไปพบแพทย์

 

อาการปวดรุนแรงหรือปวดกะทันหัน

 

        สำหรับ อาการปวดแบบพิเศษต่างๆ เช่น อาการปวดใหม่ที่ไม่เคยปวดมาก่อน ปวดรุนแรงหรือปวดกะทันหัน หรือปวดมานานแล้วไม่หาย หรืออาการปวดที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ตาพล่ามัว เห็นเป็นเส้นใยๆ หรือมีอาการชักร่วมด้วย เป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องมาพบแพทย์ให้คุณหมอช่วยวินิจฉัยพยาธิสภาพของโรค